เกาะนกเภา
ทริปท่องเที่ยวชุมชนที่เกาะนกเภา ไปเช้ากลับเย็น
ได้มีโอกาสไปเยือนเกาะนกเภา เพราะได้รับโจทย์ว่าที่เกาะนกเภามีพะยูนอาศัยอยู่จึงอยากไปเก็บภาพพะยูนที่เกาะนกเภา จึงออกเดินทางด้วยรถส่วนตัวไปยังท่าเรือดอนสักซึ่งอยู่ในตัวอำเภอดอนสัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที โดยเป็นท่าเรือเดียวกับท่าเรือไปเกาพะลวย โดยถ้าต้องการไปเกาะนกเภาจากตรงท่าเรือนี้ มี 2 วิธีด้วยกันคือ เหมาเรือไปเกาะ และนั่งเรือที่ไปพะลวยแล้วเรือจะแวะส่งระหว่างทางให้ โดยจะต้องมีเรือจากเกาะนกเภามารับกลางทะเลอีกทอดนึง เพราะว่าเรือพะลวยเป็นเรือใหญ่ไม่สามารถเทียบท่าเรือที่เกาะนกเภาได้ ที่เราสามารถไปเกาะนกเภาด้วยเรือโดยสารที่ไปเกาพะลวยได้ ก็เพราะว่าเกาะนกเภาเป็นทางผ่านของเกาะพะลวย คือเกาะนกเภาอยู่ตรงกลางระหว่างดอนสักกับเกาะพะลวยนั่นเอง
จากท่าเรือในอำเภอดอนสักไปถึงเกาะนกเภาใช้เวลาประมาณ 30 นาที ทริปนี้ทีมงานเราได้จัดตารางการเที่ยวเกาะนกเภาไว้ ได้แก่ ชมปลาพะยูนในเขตสงวนพันธ์ ชมแนวปะการัง เที่ยวชายหาดล่องหน ชมถ้ำลอด ชายหาดเทียน จุดชมวิวบนยอดเขา และชิมทับทิมเกาะนกเภา
สถานที่แรกเมื่อเราได้ไปถึงเกาะนกเภาคือ ชายหาดล่องหน เป็นชายหาดสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้ามากๆ เมื่อลงเหยียบพื้นทำให้รู้ว่าชายหาดสีขาวนั้นไม่ใช่ทรายแต่เป็นเปลือกหอยเล็กๆ ทบทมกันเป็นเนินสูง
-
น้ำทะเลสีฟ้าตัดกับชายหาด
-
ชายหาดเปลือกหอย
-
ชายหาดล่องหน
-
เปลือกหอยทับถมกันเป็นชายหาด
-
ศาลาพักผ่อน
-
เปลือกหอยเล็กๆ กองสูง
-
ท่าเรือในชายหาด
-
ท่าเรือ
ชายหาดล่องหน บริเวณอ่าวกรวดนี้จะไม่ได้มีตลอดปี จะมีในช่วงปลายปีของทุกปีจึงได้ชื่อว่าเป็นชายหาดล่องหน โดยบริเวณนี้จะมีทางเชื่อมต่อกับทางเดินเที่ยวรอบเกาะ ที่พึ่งสร้างพึ่งชมวิว
หลังจากที่ทีมงานเดินชมชายหาดและถ่ายรูปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ขึ้นเรือเพื่อเดินทางไปยังชายหาดเทียนซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวเกาะนกเภา นั่งเรือประมาณ 5 นาทีก็ถึงหมู่บ้าน
หลังจากเดินทางมาถึงบ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่แล้ว ก็ได้เดินทางไปชมเส้นทางรอบเกาะที่เราเห็นตอนที่นั่งเรือมายังเกาะ ซึ่งสามารถเดินเท้าเข้าไปได้
ทางเดินรอบเกาะนั้นยาวหลายกิโลมากๆ เราชมวิวแล้วจึงเดินกลับเข้ามาทางหมู่บ้านเพื่อจะไปสำรวจในหมู่บ้าน ซึ่งมีโรงเรียนและสำนักสงฆ์อยู่อีกฝากนึง
โรงเรียนเกาะนกเภาบริเวณด้านหน้าโรงเรียนจะหันหน้าไปทางชายหาดและมีรั้วกัน ด้านหลังเป็นเขา บรรยากาศดีมากๆ เด็กๆ ที่นี่เรียนท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งหากเป็นในเมืองคงไม่มีบรรยากาศแบบนี้
เมื่อเดินมาถึงโรงเรียนแล้ว จึงเดินเลียบชายหาดของโรงเรียนไปเรื่อยๆ จะพบสำนักสงฆ์เกาะนกเภา ซึ่งอยู่ถัดจากโรงเรียนเพียงนิดเดียว โดยจะมีกุฏิของพระสงฆ์ ซึ่งอยู่ติดกับเขา ร่มรื่นๆมาก บริเวณชายหาดจะมีศาลาพักร้อนที่ยื่นออกไปในทะเล 2 หลังด้วยกัน เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อน ตากลมทะเลเป็นอย่างมาก
หลังจากได้ไปสำรวจรอบเกาะแล้ว เรายังภารกิจตามหาพะยูนที่เกาะนกเภาแห่งนี้ ซึ่งผู้ช่วยผู้ใหญ่ได้เล่าว่า พะยูนพึ่งขึ้นมาให้เห็นไปเมื่อ 2 วันก่อนที่พวกเราจะมา วันนี้ก็ต้องวัดดวงว่าจะมาให้เราเห็นหรือไม่ ในส่วนของการชมวิวบนยอดเขา ซึ่งด้านบนยอดเขาจะเป็นถ้ำของนกนางแอ่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่สามารถเข้าได้หากไม่ได้ขออนุญาต เนื่องจากจะมีกับดักเพื่อป้องกันการขโมยรังนก จากนั้นผุ้ช่วยผู้ใหญ่จึงได้พาพวกเรานั่งเรือเพื่อชมรอบๆ เกาะ เผื่อจะเห็นพะยูนก็เป็นได้ ซึ่งเมื่อเรานั่งเรือแล้วก็จะกลับไปยังท่าเรือดอนสักเลย การนั่งเรือรอบเกาะก็จะมีชาวเกาะนกเภาติดเรือไปกับเราด้วย เพื่อจะขายปู กั้งที่หามาได้ ซึ่งทำให้เรารู้ว่าที่นี่อยู่กันแบบพี่น้อง พึ่งพาอาศัยกัน
สรุปจากการนั่งชมวิวรอบเกาะ ทีมงานเราก็ไม่เจอพะยูนซึงมันก็คงไม่ใช่วันของเรา สำหรับการมาท่องเที่ยวที่เกาะนกเภาแห่งนี้ เราได้เห็นถึงความเป็นธรรมชาติของเกาะ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่น้อย ชาวบ้านทุกครัวเรือนกว่า 40 หลังคาเรือนก็ประกอบอาชีพประมงเป็นส่วนมาก ไฟฟ้าที่ใช้เป็นไฟฟ้าจาพลังงานธรรมชาติ ก็คือจากพลังงานแสงอาทิตย์ รีสอร์ทหรือโรงแรมที่นี่ไม่มีให้เราเช่า มีแต่โฮมสเตย์ซึ่งมีที่เดียว นักท่องเที่ยวสามารถไปนอนกางเต้นท์ได้ และจุดเด่นของที่นี่คือน้ำทะเลใสและสวยมาก สรุปแล้วเกาะนกเภาเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความสงบและธรรมชาติที่สมบูรณ์