เขาชะโงก
ชุมชนปากคลองดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ห่างจากตัวจังหวัดสุราษฎรธานี ประมาน 62 กม. แหล่งท่องเที่ยวชุมชนปากคลองดอนสัก มีพื้นทีที่ติดกับแผ่นดินใหญ่ ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวในหลายรูปแบบ 1 ในนั้นมีพ่อปู่เขาชะโงก เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ตั้งของศาลพ่อปู่เขาชะโงกที่ชาวบ้านและชาวประมงในอำเภอดอนสักให้ความเคารพและบูชา ขอพรเกี่ยวกับการทำงาน การออกเรือ
การเดินทาง สามารถเดินทางได้ 2 ทางคือ ทางน้ำและทางบก
- ทางบก สามารถเดินทางมาได้จากโรงเรียนบ้านปากดอนสัก ซึ่งจะมีทางเท้าที่สามารถเดินมายังศาลพ่อปู่เขาชะโงก
- ทางน้ำ สามารถขึ้นเรือได้บริเวณท่าเทียบเรือดอนสัก ซึ่งจะมองเห็นเขาชะโงกได้จากท่าเทียบเรือ ซึ่งจะมีเรือโดยสารให้บริการอยู่ คิดค่าบริการ 10 บาท (ขาไป 5 บาท ขากลับ 10 บาท)
ทีมงานของเราได้รับความอนุเคราะห์จาก สท. เพชรรุ่ง และผู้ใหญ่แสบ ในการนำทางและให้ข้อมูล โดยได้นำเรือมารับพวกเราถึงท่าเทียบเรือและข้ามฟากไปยังเข้าชะโงก ซึ่งอยู่ไม่ไกลมาก ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึงเขาชะโงก
เมื่อเรือขับเข้าใกล้เขาชะโงก เราจะเห็นต้นแสมรายล้องอยู่รอบทางเข้า ซึ่งถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่อาจจะมองไม่เห็นทางเข้าก็ได้ สังเกตจากสีน้ำจะมีสีเขียวอมฟ้าสะอาดตา โดยเขาชะโงกมีลักษณะเป็นเขาหินปูนสูงคล้ายรูปสามเหลี่ยม ด้านบนมนและโค้งเล็กน้อยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเขาชะโงก
เมื่อลงจากเรือเราจะพบป้ายศาลพ่อปู่เขาชะโงกด้านขวามือ เมื่อมองเข้าไปจะคล้ายเป็นถ้ำซึ่งไม่ลึกมาก ภายในมีศาลและรูปปั้นพ่อปู่ภายใน ซึ่งชาวบ้านและชาวประมงในอำเภอดอนสักและใกล้เคียงให้ความเคารพและบูชา ขอพรเกี่ยวกับการทำงาน การออกเรือ
ถัดจากศาลพ่อปู่เขาชะโงกจะมีทางเดินเลียบเขาซึ่งติดกับทะเลซึ่งเป็นทางที่สามารถไปยังถ้ำมังกร ถ้ำหมู ถ้ำค้างคาว ถ้ำรังนก และไปทะลุโรงเรียนบ้านปากดอนสักซึ่งเป็นทางบกที่สามารถมายังเข้าชะโงกแห่งนี้ได้
ระหว่างเราจะพบกับเจ้าบ้าน ก็คือลิงจำนวนมากเกาะอยู่ตามต้นแสม มีทั้งลูกลิง พ่อลิง แม่ลิง โดยที่ฝูงลิงไม่รู้สึกกลัวคนสักเท่าไหร่ ผู้ใหญ่แสบมีกล้วยติดมาด้วย เพราะรู้ว่าที่นี่มีฝูงลิง ทีมงานเราก็เลยได้ให้อาหารลิงซึ่งก็เป็นกล้วยของผู้ใหญ่แสบนั่นเอง
วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์
หลังจากไปกราบพ่อปู่เขาชะโงกแล้ว ก็ออกเดินทางมายังท่าเทียบเรือเพื่อไปยังวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ซึ่งเป็นวัดที่พระครูสุวรรณประดิษฐ์การ หรือหลวงพ่อจ้อย เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคใต้เป็นผู้บุกเบิกสร้างขึ้น โดยบนยอดเขาเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ภายในวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ เดิมชาวบ้านเรียกว่า “วัดเขาล้าน” พระกิตติมงคลพิพัฒน์ (หลวงพ่อจ้อย) ได้สร้างเจดีย์เพื่อบรรจุบรมธาตุเมื่อ พ.ศ.2525 โดยได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากวัดพระเกียรติ อำเภอสอด จังหวัดเชียงใหม่ มาประดิษฐานไว้บนยอดเจดีย์ ปัจจุบันได้มีประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ของทุกปี
การเดินทาง อยู่ห่างจากชุมชนอำเภอดอนสักประมาณ 1 กิโลเมตร ตามเส้นทางสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช (ทางหลวงหมายเลข 401)
เมื่อเราเข้ามาภายในวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ เราจะต้องขึ้นเขาไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในเจดีย์บนยอดเขาหัวล้าน โดยจะมีบันไดเพื่อให้เราเดินขึ้นเขาไปซึ่งนับขั้นบันไดแล้วน่าจะประมาณ 185 ขั้น หากว่าเราไม่เดินขึ้นเขาทางบันไดนี้ ก็สามารถขับรถขึ้นไปทางด้านข้างได้ซึ่งก็จะไปถึงบริเวณหลังพระเจดีย์ แต่มีที่จอดรถอยู่น้อยมาก ประมาณ 4-5 คัน แต่แนะนำว่าควรเดินบันไดขึ้นเพื่อความท้าทาย จะได้ออกกำลังกายไปด้วย
เรื่องเล่าระหว่างทางขึ้นเขาหัวล้าน ที่เราจะไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ระหว่างทางขึ้นที่เราขึ้นบันไดมาจะเห็นต้นสัก หรือไม้สักทองจำนวนมาก ซ฿่งเราได้ข้อมูลจาก สท. เพชรรุ่ง ว่าไม้สักทองบริเวณเขาหัวล้านแห่งนี้ หลวงพ่อจ้อยและชาวบ้านได้ร่วมกันปลูกไว้ เนื่องด้วยเมื่อก่อนเขาแห่งนี้มีต้นไม้น้อย ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อเขาหัวล้าน หลวงพ่อจ้อยจึงได้ปลูกไว้จนปัจจุบันมีมากในบริเวณเขาหัวล้านแห่งนี้
เมื่อขึ้นมาจนถึงแล้วเราจะต้องสักการะพ่อตาเขาหัวล้าน ซึ่งมีศาลอยู่ด้านซ้ายมือจากตอนที่เราเดินขึ้นมาจนถึงบันไดขัี้นบนสุด พ่อตาเขาหัวล้าน พ่อท่านยอดเขา ชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นที่สถิตของพ่อท่านยอดเขาซึ่งเป็นเทพยดารักษา เขาล้านและดินแดนโดยรอบ ประชาชนมีความเคารพนับถือมากเมื่อจะทำกิจการใดให้สำเร็จต้องบนบานพ่อท่านยอดเขา โดยชาวประมงมักจะมาบูชาและเปลี่ยนดอกไม้เพื่อนำกลับไปผูกเรือของตนเอง
ทีมงานเราจึงได้กราบไหว้ขอพรจากพ่อท่านยอดเขา จากนั้นจึงเขาไปในเจดีย์เพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุ
เมื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เดินสำรวจทำให้พบประวัติว่าครั้งหนึ่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์และทรงยกยอดเจดีย์ ณ วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ เมื่อวันอังคารที่ 20 กันยายน 2526
เมื่อเดินออกมาด้านนอกซึ่งเป็นส่วนด้านหลังของเจดีย์ จะมีเสายกยอดของพระธาตุเจดีย์บรมสารีริกธาตุ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จฯ ยกยอดทอง เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2526
มณฑปหลวงพ่อจ้อย (พระกิตติมงคลพิพัฒน์)
เมื่อเราสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่ตั้งอยู่บนยอดเขาหัวล้านแล้ว ก็เดินลงมาด้านล่างมายังมณฑปหลวงพ่อจ้อย (พระกิตติมงคลพิพัฒน์) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ ซึ่งมีประวัติหลวงพ่อจ้อยไว้ โดยหลวงพ่อจ้อยบวชเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2490 และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2530 ในระยะเวลาที่พระกิตติมงคลพิพัฒน์จำพรรษาอยู่ ณ วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ ได้พัฒนาท้องถิ่น เช่น ถนนสายดอนสัก-ขนอม ริเริ่มนำเครื่องปั่นไฟมาใช้ในบ้านดอนสัก ประสานงานหน่วยเจาะบาดาลกระทรวงมหาดไทยและต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงรับสั่งให้ดำเนินการเรื่องน้ำจนชาวดอนสักมีน้ำประปาใช้จนถึงทุกวันนี้ สร้างเจดีย์บรรจุบรมธาตุเมื่อ พ.ศ.2525 ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากวัดพระเกียรติ อำเภอสอด จังหวัดเชียงใหม่ มาประดิษฐานไว้บนยอดเจดีย์ ปัจจุบันได้มีประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ของทุกปี สร้างอนุสาวรีย์พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ได้เสด็จมาประกอบพิธีต่างๆ ในวัดแห่งนี้หลายครั้งด้วยกัน
พระกิตติมงคลพิพัฒน์ มรณภาพเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536 อายุ 89 ปี พรรษา 46 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินอย่างเป็นทางการมาเป็นองค์ประธานในการบรรจุศพและเททองหล่อรูปเหมือนพระกิตติมงคลพิพัฒน์ (หลวงพ่อจ้อย) เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2540
พิพิธภัณฑ์ปลาหิน
คุณลุงกิตติ สินอุดม เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรีโดยกำเนิด มีความคุ้นเคยกับอาชีพประมงตั้งแต่เยาว์วัย ต่อมาคุณลุงกิตติได้ทำอาชีพประมงและได้สร้างครอบครัวอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยความเป็นมืออาชีพทำให้ได้สัมผัสกับปลาและสัตว์ทะเลนานาชนิดเป็นเวลายาวนาน
คุณลุงกิตติเริ่มมีความรู้สึกว่าปลาชนิดต่างๆ และสัตว์ทะเลเริ่มหายากขึ้นกว่าในอดีต ซึ่งอาจสูญพันธุ์ได้ในอนาคต ด้วยความคิดในการเป็นนักอนุรักษ์และมีความสามารถในทางศิลปะด้านแกะสลักหิน จึงได้ริเริ่มแกะสลักปลาชนิดต่างๆ และสัตว์ทะเลหายาก เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและมีความตระหนักในการอนุรักษ์ปลาและสัตว์ทะเลในเชิงศิลปะที่สวยงาม คุณลุงกิตติได้แกะสลักปลาหินเป็นจำนวนมากจึงได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ปลาหินขึ้นที่บ้านของคุณลุง เพื่อรวบรวมผลผลิตปลาหินเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับปลาและสัตว์ทะเลชนิดต่างๆ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
วังหิน
ชายหาดวังหิน เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่บริเวณแหลมทวด หมู่ที่ 5 ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ใกล้กับท่าเรือเอนกประสงค์อำเภอดอนสัก และอยู่ในเขตเทศบาลตำบลดอนสัก ห่างจากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 62 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่เต็มไปด้วยโขดหินสวยงาม พร้อมสวนสาธารณะขนาดย่อมรอบหาดสามารถนั่งพักผ่อนและชมทิวทัศน์ และมีรูปปั้นแสดงการแต่งกายของไทยสมัยต่างๆ
แหลมทวด
ท่าเทียบเรือเอนกประสงค์ดอนสัก(แหลมทวด) อีกทั้งยังเป็นสถานทืี่พักผ่อนหย่อนใจ ชมวิธีชาวประมงบริเวณริมๆ ท่าเทียบเรือที่มีนั่งร้านทอดแหจับปลากัน และสามารถชมโลมาจากตรงนี้ได้
สะพานปลา
ท่าเทียบเรือประมงของชาวประมงที่ดอนสัก ซึ่งมีสะพานทอดยาวยื่นไปในทะเล โดยมีชาวประมงจำนวนมากเทียบเรือเพื่อขน ปู กุ้ง กั้ง ปลา หมึก ฯลฯ ที่หามาได้และนำไปขายต่อ
ศาลแม่ยายอาม
เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอำเภอดอนสักให้ความเคารพนับถือและบูชา ศาลแม่ยายอามตั้งอยู่บริเวณถนน ดอนสัก-ขนอม โดยชาวบ้านจะมาบนบานศาลกล่าวทั้งในด้านการงาน การเรียน และแก้บนด้วยการจุดประทัด